เผยผลสำรวจ ผู้หญิงเครียดกว่าผู้ชายมากถึง 20%
เมื่อตกอยู่ในภาวะวิกฤติ!!!
เผยผลสำรวจ จากภาวะวิกฤติในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้คนไทยเกิดความเครียดอย่างชัดเจน
และเมื่อวิเคราะห์ลึกลงไปโดยอาศัยเพศเป็นปัจจัยหลัก ในการวิเคราะห์ พบว่า “ผู้หญิงมีความเครียดสูงกว่าผู้ชายถึง 20%” เมื่อต้องประสบหรือตกอยู่ใน ภาวะวิกฤติ เหตุเพราะ 2 ปัจจัยหลัก ประกอบด้วย
-ปัจจัยที่ 1: ผู้หญิงมักต้องรับผิดชอบดูแลสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะเด็ก
ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ จนไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง
-ปัจจัยที่ 2:
ความห่วงใยและผูกพันกับสมาชิกในครอบครัวและการทำหน้าที่เป็นที่ ปรึกษาปัญหาทางจิตใจ
ทั้งนี้
ระดับความเครียดในภาวะวิกฤติเมื่อจำแนกตามเพศจากจำนวนกลุ่มตัวอย่างรวม 1,251 คน พบว่า ผู้หญิงที่มีระดับความเครียดมากที่สุดมีปริมาณสูงถึง
24.71% ในขณะที่ผู้ชายมีระดับความเครียด
จากเหตุปัจจัยเดียวกันวัดได้เพียง 19.40% เท่านั้น ซึ่งแตกต่างกันมากถึง 20% โดยนายแพทย์ ประเวช ตันติพิวัฒนสกุล นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข, ผู้จัดการแผนงาน
สร้างเสริมสุขภาพจิต ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า “รายงานวิจัยจากทั่วโลกจะพบผู้หญิงมีความกังวล
และอารมณ์เศร้ามากกว่าผู้ชาย ยอมรับและเปิดเผยอารมณ์ของตนเองได้มากกว่าผู้ชาย” และเมื่อมองบทบาทของหญิงไทย พบว่า
ส่วนใหญ่ต้องรับผิดชอบดูแลคนในครอบครัว โดยเฉพาะเด็ก ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ
จนไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง เวลาใครมีปัญหาไม่สบายใจ ก็มักจะ
ปรึกษาผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เพราะเป็นผู้รับฟังที่ดีกว่า เข้าอกเข้าใจมากกว่า
จึงนำปัญหาเก็บมา คิดกังวล
ซึ่งนายแพทย์ประเวช ตันติพิวัฒนสกุล
ได้เสนอแนะแนวทางในการคลายความเครียด ในเพศหญิง โดยแบ่งออกเป็น 2 แนวทางหลัก ดังนี้ คือ
1. เปิดโอกาสให้คนอื่นได้ช่วยเหลือแบ่งเบาภาระต่างๆภายในบ้าน ด้วยเพราะผู้หญิงมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดผูกพัน
จึงรู้สึกว่าตนเองจะต้องเป็นผู้มอบการดูแลที่ดีที่สุด ให้แก่ทุกคนในครอบครัว แต่
จำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องแบ่งเบาภาระต่างๆ
ให้คนอื่นช่วยกัน เพื่อให้เธอมีเวลาเป็นของตัวเองและดูแลตัวเองบ้าง
2.ให้เวลากับตัวเองมากขึ้น อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน
ผู้หญิงมักจะทุ่มเทเวลาของตนเองทั้งหมดให้คนรอบข้างโดยเฉพาะบุคคลในครอบครัว
จนลืมดูแล นาทีต่อวัน
เพื่อไปทำกิจกรรมที่ตนเองโปรดปราน อาทิ ออกกำลังกาย สปา เข้าร้านเสริมสวย ทำอาหารหรือขนม เย็บปักถักร้อย
ดูหนังฟังเพลง ฯลฯ เป็นต้น เพื่อให้ได้พบช่วงเวลาที่ผ่อนคลาย บ้าง
ซึ่งจะทำให้เพิ่มพลังในการดำเนินชีวิตและที่สำคัญ ลดความเครียดได้อย่างเห็นผล
นอกจากนี้
ควรรู้ตัวว่าตนเองมีความพร้อมแค่ไหนในการรับฟังปัญหาของคนอื่น
หากรู้สึกว่าตัวเองกำลัง เครียดอยู่
ก็ควรมีวิธีเลี่ยงการรับปัญหาคนอื่นไว้ชั่วคราว ในบางกรณีอาจแนะนำให้ไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
เฉพาะด้าน
ปัญหาและความกังวลใจต่างๆที่ผู้หญิงทุกคนต้องเจออยู่เป็นประจำ
-ผู้หญิงทุกคนต้องมีอาการปวดท้องประจำเดือนหรือมีตกขาวมาก
-ผู้มีความกังวลและเกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยทอง (มักจะมีอาการต่างๆแทรกซ้อนตามมาเป็นลำดับ)
-ผู้ที่มีปัญหาในเรื่องสุขภาพภายใน และต้องได้รับการตัดเอามดลูกออก หรือผ่าทำหมัน (มักจะมีอาการต่างๆแทรกซ้อนตามมาเป็นลำดับ)
-ผู้ที่ไม่มีความสุขเรื่องชีวิตครอบครัว
มีเพศสัมพันธ์เจ็บ
-มีความกังวลเรื่องริ้วรอย และต้องการบำรุงและแก้ไขปัญหาผิวพรรณที่เกิดขึ้น
-ผู้ที่ต้องการให้ผิวดูกระชับไม่หย่อนคล้อย เช่น หน้าอก แก้ม
คาง ถุงใต้ตา
-มีความกังวลใจปัญหาในเรื่องของรูปร่างและสัดส่วน เช่น ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เอว บั้นท้าย และอื่นๆ
-มีความกังวลเรื่องผิวหน้าหมองคล้ำ ต้องการหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิว มาช่วยแก้ไขปัญหาให้ผิวพรรณดูสดใส เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวลขึ้น
-มีความต้องการที่จะกำจัด สิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ
-ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพภายในไม่ค่อยดี เช่น ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะกระปิดกระปอย
กลั้นปัสสาวะไม่อยู่
-มีความกังวลเรื่องผิวพรรรณ ต้องการฟื้นฟูบำรุงผิวที่แห้งเหี่ยว ร่วงโรย ขาดความชุ่มชื่น ดูไม่มีชีวิตชีวา
-ผู้ที่คลอดบุตรแล้วไม่ได้อยู่ไฟ ทั้งคลอดเองและผ่าคลอด (มีปัญหาสุขภาพหลังจากการคลอดตามมาในภายหลัง)
-ผู้หญิงมีความกังวลเมื่อต้องการมีบุตร หรือมีบุตรยาก
เพราะมดลูกไม่ปกติ
-ผู้หญิงมักจะกังวลปัญหาเรื่องช่องคลอดไม่กระชับ และต้องการจะทำรีแพร์ ช่องคลอดให้กระชับขึ้น
+รู้อย่างนี้แล้วอย่าลืมดูแลผู้หญิงคนที่คุณรักและอย่าลืมดูแลสุขภาพของคุณด้วยนะคะ+
ด้วยความปรารถนาดีจาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น